หุ้นจีนโดนเข้าอย่างจังหลังจากเทรดเดอร์กลับมาจากวันหยุดยาว ความพยายามของธนาคารประชาชนจีนที่จะเพิ่มสภาพคล่องกว่า 1 แสนล้านเหรียญด้วยการลดอัตราส่วนความต้องการในเงินทุนสำรองไม่เพียงพอที่จะชดเชยความกลัวต่อการเติบโตที่ชะลอตัวลง ข้อพิพาททางการค้าที่ทวีความรุนแรงขึ้น และการปรับขึ้นในอัตราดอกเบี้ยของสหรัฐ โดย CSI 300 ร่วงไป 3.6% ในช่วงสายของวันนี้ นำโดยภาคส่วนเทคโนโลยีเนื่องจากนักลงทุนมีโอกาสที่จะตอบสนองต่อรายงานที่กล่าวว่าเจ้าหน้าที่หน่วยข่าวกรองของจีนได้ฝังไมโครชิพเพื่อทำการแฮคบริษัทเทคโนโลยีรายใหญ่และหน่วยงานรัฐบาลของสหรัฐ
สินทรัพย์ที่มีความเสี่ยงอาจยังคงตกอยู่ภายใต้แรงกดดันต่อไปโดยที่ตลาดฟิวเจอร์สแสดงถึงการเปิดตัวหุ้นยุโรปที่ต่ำลงในวันนี้ ทั้งความเสี่ยงด้านภูมิรัฐศาสตร์ที่เพิ่มขึ้น, การเจรจา Brexit, ข้อพิพาททางการค้าระหว่างสหรัฐ-จีน และการเรื่องตั้งกลางเทอมของสหรัฐต่างเป็นแหล่งที่มาของความไม่แน่นอน อย่างไรก็ตาม ในความคิดเห็นของผม ภัยคุกคามใหญ่ที่สุดต่อตลาดกระทิงในสหรัฐยังคงเป็นการที่อัตราดอกเบี้ยของสหรัฐปรับตัวสูงขึ้น การขายพันธบัตรในสัปดาห์ที่ผ่านมาทำให้อัตราผลตอบแทนแบบ 10 ปีขยับขึ้นไปที่ 3.25% ซึ่งเป็นตัวเลขที่เห็นครั้งล่าสุดในเดือนเมษายนปี 2011 ส่วนอัตราผลตอบแทนแบบ 30 ปีไต่ขึ้นไปที่ 3.42% โดยเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่เดือนกรกฎาคมปี 2014 สหรัฐจะมีการประมูลตราสารหนี้มูลค่า 2.3 แสนล้านเหรียญในสัปดาห์นี้ และหากสิ่งนี้ทำให้เกิดการวิ่งขึ้นอีกในพันธบัตร นักลงทุนอาจเริ่มมองหาวิธีการถอยจากสินทรัพย์ที่มีความเสี่ยงมากกว่าเนื่องจากสินทรัพย์ที่ไม่มีความเสี่ยงเริ่มน่าสนใจมากยิ่งขึ้นอีก
รายงานการจ้างงานนอกภาคการเกษตรในวันศุกร์มีผลออกมาแบบผสมกัน โดยที่การสร้างงานในเดือนกันยายนออกมาต่ำกว่าที่คาดการณ์ไว้พอสมควรที่ 134,000 ต่อที่คาดการณ์ไว้ที่ 185,000 อย่างไรก็ตาม ตัวเลขเดือนสิงหาคมมีการแก้ไขปรับสูงขึ้นอีก 69,000 และอัตราการว่างงานลงไปที่ต่ำสุดในรอบ 50 ปีที่ 3.7% องค์ประกอบการเติบโตของค่าจ้างในรายงานซึ่งเป็นตัวบ่งชี้ที่สำคัญสำหรับอัตราเงินเฟ้อปรับเพิ่มขึ้น 0.3% ในเดือนกันยายนและ 2.8% เมื่อเทียบปีต่อปี โดยรวมแล้วรายงานชี้ให้เห็นว่าตลาดแรงงานยังคงรัดแน่นอยู่และเฟดต้องดำเนินการเพิ่มอัตราดอกเบี้ยต่อไปเพื่อรับมือกับเศรษฐกิจที่เฟื่องฟู
สำหรับตลาดสกุลเงิน ดอลลาร์สูงกว่าเพื่อนๆ เล็กน้อย ผู้เทรดยูโรกับสเตอร์ลิงต้องคอยจับตามองการเมืองและความแตกต่างของอัตราดอกเบี้ย ลุยจิ ดิ มาโย รองนายกรัฐมนตรีของอิตาลีตั้งใจที่จะดำเนินการตามแผนที่จะเพิ่มการขาดดุลงบประมาณในปี 2019 หากโรมกับบรัสเซลส์ยังคงฉะกันในแผนงบประมาณของอิตาลี ก็เตรียมพบกับการเทขายสินทรัพย์ของอิตาลีและยูโรครั้งใหม่ได้เลย
ข้อความปฏิเสธความรับผิดชอบ: เนื้อหาในบทความนี้ประกอบด้วยความคิดเห็นส่วนตัวและไม่ควรตีความเป็นคำแนะนำส่วนตัว และ/หรือคำแนะนำด้านการลงทุนอื่น ๆ และ/หรือข้อเสนอ และ/หรือคำชักชวนสำหรับการทำธุรกรรมใด ๆ ในตราสารทางการเงิน และ/หรือการรับประกัน และ/หรือการคาดการณ์ผลการดำเนินงานในอนาคต ForexTime (FXTM) พันธมิตร ตัวแทน กรรมการ เจ้าหน้าที่หรือพนักงานของบริษัทจะไม่รับประกันความเที่ยงตรง ความถูกต้อง ความทันเวลาหรือความสมบูรณ์ของข้อมูลใด ๆ หรือข้อมูลที่พร้อมใช้และถือว่าไม่มีความรับผิดต่อการสูญเสียที่เกิดขึ้นจากการลงทุนใด ๆ ที่อยู่บนพื้นฐานเดียวกัน
